Sugita เป็นร้านซูชิสไตล์เอโดะมาเอะ ที่ถูกยกให้เป็นร้านอันดับ 1 ของเกาะญี่ปุ่น โดยเวปไซต์ Tabelog ที่ขึ้นชื่อว่าให้คะแนนกันโหดหินมากๆ วันนี้สะสมแต้มบุญครบ หลังพยายามจองมาหลายเดือน ในที่สุดก็ได้ไปเยือนสักที
ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่น ก็คงฝันจะไปกินซูชิที่ดีที่สุดในญี่ปุ่นกันบ้างแหละ ร้านดังๆ ในญี่ปุ่นสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติก็น่าจะนึกถึง Sukiyabashi Jiro ในตำนาน
แต่ถ้าอันดับ 1 ที่แท้จริงแล้ว ณ ตอนนี้ต้องยกให้ Sugita เท่านั้น
ข้อมูลร้าน ณ วันที่ 29/April/2021
ชื่อ: Sugita (日本橋蛎殻町 すぎた)
ที่อยู่: 〒103-0014 Tokyo, Chuo City, Nihonbashikakigaracho, 1 Chome−33−6 ビューハイツ日本橋 地下1階
เวปไซต์: –
จอง: โทรจองเท่านั้น 03-3669-3855 (+81-3-3669-3855)
ราคา: 28000JPY ++
รางวัลการันตีคุณภาพ:
– มิชิลิน 1 ดาว
– 4.67 คะแนน Tabelog (2021 GOLD) อันดับ 1 ในหมวดซูชิ และ อันดับ 1 ของทั้งญี่ปุ่น

ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านซูชิอันดับ 1 ของญี่ปุ่น มันไม่ได้จองกันง่ายๆ แน่นอน และร้านซูชิดังๆ ส่วนใหญ่จะต้องโทรจองเท่านั้น ไม่มีการจองผ่านเนต ครั้งนี้ฝากรุ่นพี่คนดีคนเดิมจองให้ ใช้เวลาอยู่ 3-4 เดือนกว่าจะโทรติดและมีที่ว่าง (ปกติต้องข้ามปีกันเลย แต่ช่วงนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเป็นคู่แข่ง)
หลายคนคงสงสัย เห้ย มีดาวเดียว มันจะอันดับ 1 ได้อย่างไร ร้านซูชิสามดาวเยอะแยะ
ก็ต้องบอกว่าเกณท์การให้ดาวของมิชิลิน มันวัดเรื่องความคงเส้นคงว่า (consistency) เป็นระยะเวลานาน ด้วยการส่ง judge ไปชิมเป็นระยะๆ
แต่ร้านที่จองอภิมหายากนรก มันจะส่งคนไปชิมบ่อยๆ ได้อย่างไร -_-
ดังนั้น ร้านซูชิระดับ top หลายร้านในญี่ปุ่นก็อาจจะมีแค่ดาวเดียว หรือบางร้านก็คืนดาวมิชิลินไปเลยก็มี

ออกเดินทาง
หน้าร้านไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร เป็นประตูเล็กๆ ลงรถไฟที่สถานี suitengomae และเดินต่อประมาณ 5 นาทีก็ถึงร้าน อย่ามาสายเด็ดขาด

วันนี้มากัน 4 คน น่าเสียดายที่ไม่ได้นั่ง counter หลัก แต่ได้เป็นห้องส่วนตัวก็รู้สึกสงบดี

Course มื้อเย็นเป็นแบบ Omakase ตามฤดูกาล จะมีของทานเล่น tsumami 9 อย่าง และซูชิแบบ nigiri อีก 12 คำ สามารถสั่งเพิ่มได้ตอนท้าย

ระหว่างรอเสริฟเครื่องดื่มกับผ้าร้อน เชฟใหญ่ Takaaki Sugita กับเชฟผู้ช่วยทั้งหลายก็จะเข้ามาแนะนำตัวและทักทาย ถ้าเราแพ้อาหารอะไรก็ให้บอกเชฟตอนนี้เลย เพราะเชฟต้องเตรียมวัตถุดิบทั้งคอร์ส
ของทานเล่นอันแรก เริ่มด้วยถั่ว soramame (จังหวะนี้อยากสั่งเบียร์มาก แต่ยังข่มใจไว้ก่อน)

mana Katsuo แบบซาชิมิ ไม่ต้องจิ้มอะไรใดๆ นุ่มมาก ไม่มีกลิ่นคาวใดๆ

ถัดมาเป็น Hirame หรือปลาตาเดียว
เสริฟมาพร้อมกับโชยุและวาซาบิ (กินเสร็จ เก็บทันที ไม่ได้ให้เอาไปจิ้มอย่างอื่นต่อ)

ปลาไหล Unagi ย่างเกลือ จิ้มกับวาซาบิ
หนังกรอบ แต่เนื้อยังชุ่มฉ่ำ ด้วยความที่ชอบปลาไหลอยู่แล้ว อันนี้คือฟินตัวลอยมากๆ
ถุงสเปิร์ม Tarako
ใช่ครับ มันคือถุงน้ำเชื้อปลา…….. ต้มมาแล้ว อย่าไปกินเยอะตอนกินครับ รสชาติมันๆ ครีมๆ ไม่มีกลิ่นคาวแต่อย่างใด ราดด้วย ponzu เปรี้ยวๆ ดีงามมาก

ถัดไปก็ถือว่าเด็ด Ankimo มันคือตับปลา ฉายาฟัวกราแห่งท้องทะเล และปลาหมึกไข่จิ๋วๆ
เชฟแนะนำว่าต้องกินคู่กับสาเกนิฮงชุ ถึงจะเข้าถึงแก่นรสชาติ จัดไปครับ
พอกินเข้าไปเท่านั้นแหละ นึกภาพช๊อค ตาถลน สายฟ้าฟาด แบบการ์ตูนอาหารญี่ปุ่นอะ
อร่อยโคตรๆ หวานมันเค็มกลมกล่อม จิบสาเกเข้าไปผสมด้วยแล้วเหมือนทวีคูณรสชาติ อันนี้คือสุดยอดจริงๆ ปรุงมาดีมาก
ต่อด้วย Mana katsuo ย่างเกลือ
แผ่นหนังทำเป็นริ้วบางๆ texture ดีมาก

ของทานเล่นอย่างที่ 9 ไข่ตุ๋น konowata ทำจากเครื่องใน Sea cucumber หมักเกลือ
โดนขิงใส่ เอ้ย มีขิงมาเสริฟ เป็นอันรู้กันว่าต่อไปจะเข้าสู่ช่วงเสริฟ Nigiri แล้ว

นิกิริคำแรกเป็นหน้า Kohada
ถ้าใครนึกไม่ออก มันจะสากๆ คล้ายปลาซาบะ แต่อันนี้ดีกว่ามาก เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้หากินได้ทั่วไป

Madai
ในญี่ปุ่นจะมีปลา Tai อยู่มากกว่า 10 สายพันธุ์ แต่ที่อร่อยที่สุด(แน่นอนว่าต้องแพงสุด) ก็คือ Madai นั่นเอง อันนี้ก็ของโปรด ไม่รู้จะติยังไง

คำที่สามคือ Katsuko โรยเกลือบางๆ (ลูกปลาTai)
อันนี้คือ Katsuko ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมาแล้ว ไม่ต้องจิ้มอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
เกลือแค่ปลายนิ้วก็พอ นุ่มและเด้งสุดๆ

ต่อมาเป็นหน้ามาตรฐานร้านซูชิ Akamitsuke หรือทูน่าเนื้อแดงหมักโชยุ
ถ้าไม่อร่อยก็คงเสียชื่อร้านมากๆ

คอมโบมาตรฐาน ถัดจาก Akami แล้วก็ต้อง Chutoro
ระดับนี้ไม่เสียชื่อร้านแน่นอน เห็นแดงๆ แบบนี้ เนื้อหวานมันสุดๆ
ปลามาตรฐานร้านซูชิ มันวัดกันที่เส้นสายในวงการจริงๆ ว่าจะได้ supply ที่ดีที่สุดหรือเปล่า

ต่อด้วย Aji หรือที่บ้านเราเรียกว่าปลาทูนั่นแหละครับ
cutting สวยงามงานคราฟมากจริงๆ

คำถัดมา หน้าตาเรียบๆ แต่นี่แหละ ไฮไลต์ของมื้อนี้เลยก็ว่าได้
มันคือปลาหมึกไส้ไข่ ที่เสริฟเฉพาะช่วงเดือนเมษาเท่านั้น
texture คือนุ่มมาก ไม่เคยกินปลาหมึกแบบนี้มาก่อน ข้างในเป็นไส้ไข่หมึกหวานๆ บนข้าวอุ่นๆ อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ เกิดมาไม่เคยกินมาก่อน เบิกเนตรขั้นสุด

Kinmedai หรือปลากะพงตาแดง
เป็นปลาหน้าหนาวน้ำลึก เนื้อจะมีไขมันแทรกอยู่ทุกอณู
ของโปรดอีกเช่นเคย

Kurumaebi
อันนี้คิดว่าไม่ได้ต่างจากร้านซูชิ omakase ดีๆ มากนัก
แน่นอนกุ้งยังไงมันก็ต้องอร่อย!
ตัดแต่งจัดเรียงสวยงามเนี้ยบมาก

พักยกก่อนด้วยซุป asari miso
อันนี้ธรรมดาๆ ทั่วไป

Bafununi หอยเม่นแบบ Nigiri หน้าแน่นๆ
ปกติ Uni จะเสริฟแบบ Gunkan (ซูชิห่อสาหร่าย) เพราะจะทำง่ายกว่า แต่อันนี้เสริฟแบบ Nigiri ต้องมือเบาและปราณีตมากๆ ไม่งั้นช้ำเละเทะ

ปิดท้ายด้วยปลาไหล Anago ย่างซีอิ๊ว แบบอุ่นๆ กำลังดี

ล้างปากด้วยไข่หวาน tamakoyaki เนียนนุ่มเหมือนเค้ก ขนาดพอดีคำ

ค่าเสียหายทั้งสิ้น 34,500 เยน
ถามว่าคุ้มมั้ย? ผมว่าอย่าหาความคุ้มค่าจากซูชิมื้อละสามหมื่นเลยครับ มันไม่มีทางคุ้ม 55
แต่ถ้าถามว่าพอใจมั้ย? พอใจมากๆ แนะนำให้มาสัมผัสที่สุดของซูชิ อาหารที่ทำจากข้าวหมักโปะหน้าปลาชิ้นนึง มันสามารถโดดเด่นแตกต่างเหนือกว่าร้านทั่วไปได้ขนาดไหน

ก่อนกลับก็ขอชักภาพกับเชฟใหญ่และผู้ช่วยเชฟเป็นที่ระลึกซะหน่อย
ก็จบการรีวิวไว้เท่านี้ แนะนำให้มาสัมผัสด้วยตัวเองครับ
