มาแล้วจ้า รีวิว Business class บนน้องเต่า ANA A380 Flying Honu 🛩🇯🇵🏝A380 ลำแรกของ ANA บินตรงจาก Narita ถึง Honolulu ฮาวาย
ก่อนอื่นเลย สิ่งหนึ่งที่บอกได้ว่าเราอยู่ญี่ปุ่นมานานเกินไปแล้วนั่นก็คือ…
อยากไปฮาวาย 555555555
คือชาวเกาญี่ปุ่นแทบทุกคนเมื่อถึงหน้าร้อนก็ต้องนึกถึงHawaii and pineapple ไม่รู้มันจะอะไรนักหนา พอดีไม่ค่อยอิน มันจะต่างจากภูเก็ตบ้านเราอย่างไร
แต่ก็นั่นแหละ อยู่ไปนานๆ คนรอบตัวมันก็ไปทุกปีๆ เรามันก็เริ่มอยากไปบ้าง
ไหนๆ ก็จะไปทั้งที ถือโอกาสขอนั่ง A380 ใหม่เอี่ยมน่ารักขิขุลำแรกจาก3ลำของ ANA เลยดีกว่า
ANA สั่งA380 มาทั้งหมด3ลำสำหรับเส้นทางยอดฮิตชาวเกาะ Narita <-> Honolulu โดยเริ่มบินไฟล์ทแรกวันที่ 24พฤษภาคม2019 เป็นต้นไป
โดยตั้งชื่อว่า Flying Honu. มีทั้งหมดสามสี สีฟ้าน้ำทะเล สีครามท้องฟ้า สีส้มsunset
(Honuคือชื่อเต่าทะเลที่พบได้ทั่วไปรอบๆฮาวาย ไปsurfก็เจอน้องว่ายน้ำอยู่ด้วย น่าร้าก)

พอเปิดตัวปุ้บ แอดก็รีบจัดตารางเตรียมตัวจองตั๋วทันที แต่ก็เหมือนจะช้าไป ชาวเกาะเค้าไวกว่าเรามาก Business class มันแน่นยาวๆ ทั้งหน้าร้อนเลย บ้าจริง. ก็เลยวัดดวงแลกไมล์ติดwaitlistไป แต่ก็โชคดี ได้ไฟล์ทปลายตุลา เย่

ไฟลท์ที่จะบินคือ NH184 NRT -> HNL เวลา 20:25 – 8.25 แต่ใช้เวลาบนเครื่องทั้งหมดแค่ 7 ชั่วโมง พอๆ กับกลับไทยเลย
Pre boarding ใน ANA lounge @ Narita
loungeที่นาริตะก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ โดยส่วนตัวชอบที่Hanedaมากกว่า ไม่ทึบอึดอัด นั่งจิบไวน์ดูเครื่องบินริมหน้าต่างได้ (แต่ก็สู้เลานจ์ใหม่การบินไทยยังไม่ได้)


ก่อนจะไปหาอะไรกินก็ขออาบน้ำก่อนแล้วกัน เพราะว่าจะไปนอนบนเครื่องยาวๆ
ไม่ได้บินนาริตะนานมากกก เดี๋ยวนี้มีตู้กดคิว shower room แทนคนแล้ว
ตู้กดคิว มีผ้าเช็ดตัวกับslipperให้
ไดรเป็นDyson supersonic
สบู่ แชมพู ครีมนวดเป็นของ THANN (ชอบยี่ห้อนี้)
ที่นาริตะมีห้องอาบน้ำประมาณเกือบ10ห้องได้ ใช้ได้ครั้งละครึ่งชั่วโมง
อาบน้ำเสร็จก็หาไรกิน
Hot mealที่นี่มี tonkotsu ramen ถ้วยจิ๋วๆ กินกับเบียร์ on tap นี่มันฟินมาก

boarding เป็นอะไรที่ลำใยมาก สำหรับA380 เพราะคนมัน500กว่าคน เต็มความจุ

ภายในcabinอันแสนคุ้นเคย…
ที่นั่งก็ยังคงเป็น 1-2-1 staggered configuration
ถึงแม้จะเป็นเครื่องใหม่ แต่designที่นั่งก็ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
ถ้าจะไม่ใส่ที่นั่งเป็น The Room เหมือน HND -> LHR
ก็ช่วยไปดูงาน Q-suite ไม่ก็ staggered ของ SQ หน่อยนะ 55555
(อันที่จริงมันเปลี่ยนนิดหน่อย ในแถวE/F จะมี seats ที่เป็น couple seats ด้วย)

ไฟลท์เกิน5ชั่วโมง เลือกที่นั่งผิด ชีวิตบัดซบ
ถ้ามาคนเดียว นั่งติดหน้าต่างไปเลย อยากได้วิวสวยๆก็เอา 6 7 8 9 A/K
ขาออกจากNRT นั่งฝั่งK จะเห็นวิวHonoluluตอนเช้าพอดี ขากลับก็ฝั่งA
10-15จะโดนปีกบัง แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก มันมีวิวให้ดูสิบนาที นอกนั้นก้ปิดหน้าต่างนอนแล้ว
ถ้ามาเป็นคู่ เลือก E/F แถวไหนก็ได้ยกเว้นหลังสุด
แถวหลังสุดติดห้องน้ำอย่าไปเลือก ชีวิตจะบัดซบมาก นั่งกินข้าวไปดูคนเข้าส้วมไป

Amenities จาก Fred Segal
ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ชอบ globetrotter แบบปกติมากกว่า
ข้างในก็มีผ้าปิดตา อุดหู shopping bagลายflying honuมุ้งมิ้ง
ใครขี้หนาวก็ขอcardiganมาใส่นอนได้ด้วย

พอนั่งไปสักพัก CAก็จะแจกmenuมาให้คนละเล่ม
สีฟ้าฮาวายสวยงาม พร้อมกับbragว่าอาหารญี่ปุ่นฉั้ลอร่อย
แน่นอนว่าทุกคนแม่งสั่งอาหารญี่ปุ่น
คือมันไม่พอ น้องCAผู้น่าสงสารก็เดินถามทีละคนว่ามีใครอยากได้ International Cuisineมั้ย(มันก็ไม่ได้แย่นะ มีของหวานPierre hermeด้วย)
แต่ด้วยความที่กรูจะกินwashoku น้องCAก็ต้องทำหน้าหงอยๆไปถามคนอื่นต่อ T_T
แวะมาดูรอบๆตัวบ้าง
ที่นั่งมีusbให้สองช่อง กับuniversal outlet1ตัว

มีจอ23นิ้ว สีสันสดใสมาก แต่ยืนขึ้นมาเห็นหมดเลยจ้าใครดูอะไรอยู่ ไร้ซึ่งprivacy 55555 (ดูparasite กับ brave father online กันค่อนลำ)


หลังจาก take off ก็จะเริ่มเสริฟ welcome drink
สำหรับ flight นี้มี menu พิเศษคือ Blue Hawaii

หนังจากนั้นไม่นานก็เริ่มเสริฟอาหาร
แอดเลือก course อาหารญี่ปุ่น

ส่วนเจ้ข้างๆ เลือกเป็น international
เลยขอถ่ายมาหน่อย

กินเสร็จก็ต้องรีบนอน มีเวลาให้นอนอีก5ชั่วโมง

ตื่นมาก่อนที่จะlanding จริงๆจะสั่งเป็น light mealเลยก็ได้ แต่ด้วยความที่ยังอิ่มแน่นอยู่ เลยขอแค่ผลไม้กับโยเกิร์ต

ลงจากเครื่องมา ก็หยิบกระเป๋าแล้วลากออกไปได้เลย เค้าเรียงใว้ให้แล้วจ้า มาด้วยกันกระเป๋าก็อยู่ติดกันเลย

อ้อ ANAมีรถบัสไฟฟ้าให้ขึ้นฟรีในเมืองด้วย มีสองคัน มาทุก15นาที เป็นลายน้องHonuสีส้มกับสีน้ำเงิน วิธีขึ้นฟรีคือต้องโหลดApp ANA mileage แล้วโชว์คูปองให้คนขับ
จบpartแรกจ้าา
โดยรวมก็ค่อนข้างพอใจ
ถ้าจะมีเรื่องให้ติ ก็น่าจะเป็นamenitiesที่ดูcheapกว่าไฟลทปกติไปหน่อย
โพสนี้ไม่ได้sponsoredแต่อย่างใด และด้วยความที่พยายามรักษาprivacyของผดส.และต้องไม่รบกวนการทำงานของCA
มีหลายอย่างตกหล่นไปจากรีวิวพอสมควร
ตอนแรกว่าจะใส่ในpostเดียว แต่ว่าขากลับมันมีอะไรต่างจากขามาเยอะพอสมควร ด้วยความที่ANAเค้าทำloungeใหม่ที่Honolulu สวยงามมากๆ ไปต่อ part 2 ตรงนี้
